รีวิว Razer Kaira X พบกับหูฟัง ที่เหล่าเกมเมอร์ต่าง ก็อยากมีไว้ครอบครอง สำหรับสายคอนโซล ที่บางคนต้องการ ความเป็นส่วนตัว กับเหล่าหูฟังดีๆ สักอันนึง ต้องขอแนะนำเลย Razer Kaira X ห้ามพลาดกับ อาวุธหนักของเหล่าเกมเมอร์ พร้อมรับอรรถรสได้อย่างดี ได้ครบรสพร้อมสนุกกับเกมได้อย่างดี
รีวิว Razer Kaira X หากเกมเมอร์สายคอนโซล ท่านไหนที่กำลังมองหา หูฟังดีๆที่ได้ครบรส ส่วนใหญ่จะคิดถึงพวกหูฟัง จากเหล่าบริษัทของเครื่องเกมเอง ไม่ว่าจะเป็น Pulse 3D ของ PlayStation หรือ Xbox Wireless Headset ของ Xbox
แต่ถ้าหากเกมเมอร์ ท่านไหนนั้นต้องการความสะดวกสบายเพิ่มเติม เหนือระดับขึ้นไปอีกนั้นต้องขอแนะนำ Razer Kaira X ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ ที่ต้องการ สัมผัสถึงอรรถรสในระดับ Next Level นอกจากคอนโซลแล้วก็ยังเอาไปใช้กับ PC ได้อย่างสะดวกวันนี้ทางเรา Siamit นั้นจะพาไปดูว่าเจ้าหูฟัง Razer Kaira X นี้เป็นอย่างไรไปดูกันได้เลย tablet ราคาไม่เกินหมื่น
รีวิว Razer Kaira X สเปคพื้นฐานของ หูฟัง Razer Kaira X
- Driver: Razer TriForce 50mm
- น้ำหนัก : 283 กรัม
- การเชื่อมต่อ : สาย 3.5 มม.
- ความถี่ : 20 Hz – 20,000 Hz
- Impedance : 32 Ω
- สั่งการด้วยปุ่มกด
- ใช้งานได้กับ : PlayStation, Xbox, PC, Nintendo Switch และมือถือที่มีพอร์ต 3.5 มม.
ดีไซน์ของตัวหูฟัง เรียบหรูแมทช์คู่กันกับ เครื่องเกมคอนโซล
Razer Kaira X มาพร้อมกัน 2 สี 2 สไตล์
ที่ถูกออกแบบมาให้ แมตช์กับเครื่องคอนโซล ได้มากที่สุดแล้ว ณ เวลานี้ ด้วยการเลือกใช้โทนสีดำ/ขาว/น้ำเงิน สำหรับ PlayStation 5 และโทนดำ/เขียว กับ Xbox Series X ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าถ้าเทียบกับ Xbox Wireless Headset ทางด้านของ Razer ก็ดูจะให้ทรวดทรงและสีสันที่สวยงาม และน่าเอาไปวางคู่กับเครื่อง Xbox มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แถมน้ำหนักของตัวหูฟังนั้น ก็เบามากด้วย เพียงแค่ 283 กรัมเท่านั้น เวลาสวมใส่จะไม่รู้สึกหนักหูมาก อีกทั้งยังมีส่วน Earcup ครอบหูที่สามารถจับหันข้างเพื่อให้เข้ามุมกับที่ตัวเองถนัด และทำด้วยเมมโมรีโฟมของ FlowKnit จึงส่งผลให้เวลาสวมใส่ก็รู้สึกสบาย ไม่เจ็บหูแม้จะใช้งานเป็นเวลานาน
แถมตัวหูฟังนั้น ยังมาพร้อมกับไมค์เก็บเสียงที่เลือกใช้ เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น HyperClear Cardioid ซึ่งจะช่วยให้ ลดเสียงรบกวนภายนอกได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ตัวไมค์ที่ติดมากับหูฟัง นั้นจะน่าเสียดายที่ถอดออกมาไม่ได้ แต่ก็สามารถปรับโค้งงอได้ องศาตามที่ถนัดได้แทน
และในด้าน ของปุ่มที่ควบคุม ที่มีมาให้นั้น ก็จะมีมาให้ตามพื้นฐาน มีปุ่มเปิด-ปิดไมค์ ตามพื้นฐาน และตัวเพิ่ม-ลดเสียง ซึ่งจุดนี้ก็ถูกทำมาให้หมุนได้โดยสะดวก แตกต่างจากหูฟัง Pulse 3D ของ PlayStation 5 ที่เป็นแบบกด และทำให้ผู้ใช้มักจะคลำผิดไปกดโดนปุ่มอื่นอยู่บ่อย ๆ
เริ่มต้นใช้งานได้ทันที ด้วยการเสียบกับจอยเล่น
อิสระอย่างง่ายๆ ด้วยการเชื่อมต่อกับอะไรก็ได้ ขอแค่เพียงมีพอร์ต 3.5 แค่นั้น ก็ใช้เข้าหูฟังตัวเก่งตัวนี้ได้แล้ว แต่ถ้าใช้กับเครื่องของคอนโซล แค่เพียงคุณเสียบกับ ทางจอยคอนโทรลเลอร์ ในขณะที่ถ้าเป็น PC, โน้ตบุ๊ค หรือ Nintendo Switch ก็จะมีพอร์ตรองรับให้อยู่แล้ว
ส่วนการเชื่อมต่อกับมือถือ ต้องดูเป็นรุ่น ๆ ว่ามีพอร์ต 3.5 มม. มาให้ใช้หรือไม่ ทั้งนี้ก็อาจจะต้องดูกำลังขับเสียงเพิ่มเติมด้วย เพราะหูฟังตัวนี้มีความต้านทาน 32 Ω จึงเหมาะกับการเล่นผ่านเครื่อง PC หรือคอนโซลมากกว่า
ไม่ต้องห่วงเรื่องของ ความยาวสาย เพราะทาง Razer Kaira X นั้นจัดมาให้ยาวถึง 1.3 เมตรเลย ช่วยเพิ่มระยะให้คุณสามารถปรับอิริยาบถระหว่างเล่นเกมได้มากขึ้น และแน่นอนว่าก็มาในรูปแบบของสายถักที่ช่วยเสริมความทนทาน หายห่วงว่าจะขดตัวไม่เข้ารูปอย่างสายทั่ว ๆ ไป
รีวิว Razer Kaira X ด้วยพลังเสียงที่อัดแน่น เต็มทุกบีท เอาอยู่ทุกคอนเท้นต์และ ทุกเกมโปรดของคุณ
ต้องบอกเลยว่าหูฟัง ตัวนี้นั้น หากใครชอบเสียงเบส ตึ้บๆแล้วนั้น จะต้องชอบมันอย่างแน่นอน เพราะทาง Razer Kaira X ให้เสียงเบสที่จัดเต็มแน่นฟิตเปี๊ยะ พร้อมยัง สามารถแยกเสียง ที่มาจากซ้ายและขวา ได้แบบชัดเจน และการไต่ระดับที่แน่นอน ทำได้ดีไม่มีผิดหวัง ให้เหล่าผู้ใช้ไม่พลาดกับ ทุกจังหวะภายในเกม
จุดที่อาจจะด้อยไปบ้าง จะเป็นเรื่องของการฟังเพลง เพราะถ้าเป็นเพลงแนวที่ ต้องเน้นเสียงร้องหรือ เสียงเครื่องเป่า ก็จะไม่โดดเด่นมากนัก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถเข้าใจได้เพราะ ตัวหูฟังถูกปรับจูนโปรไฟล์เสียงมา เพื่อเน้นเล่นเกมเป็นหลักอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน Razer Kaira X ก็ไม่ได้รองรับระบบเสียง 3D Audio ของ PlayStation 5 ด้วย ซึ่งใครที่ซีเรียสกับเรื่องนี้ ก็อาจมองเป็นหูฟัง รุ่นพี่ที่มีราคาสูงกว่าอย่าง Razer Kaira Pro แทน ก็จะตอบโจทย์ ได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ต้องบอกเลยว่า หากใครเป็นเกมเมอร์ ที่ชื่นชอบ อรรถรสแบบครบรส ต้องห้ามพลาดกับ หูฟังตัวนี้ Rzaer Kaira X นั้นเหมาะสมกับเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะ PC หรือ Console ก็สามารถเล่นเกมได้ อย่างเต็มที่ ครบรสชาติในเรื่องฟังเสียงทุกอย่าง ดูซีรี่ย์
แม้ว่าจะไม่ได้มี ฟีเจอร์ปรับแต่งอะไรมากมาย แต่ด้วย คุณภาพของไดร์เวอร์ ประกอบกับความใช้งานง่าย ในราคาเพียง 2,490 บาท ก็ทำให้นี่คือหนึ่งในตัวเลือกแรก ๆ ที่ควรจะต้องมองไว้เลยทีเดียว โดยเฉพาะใครที่กำลังหาหูฟัง ตัวใหม่เพื่อมาอยู่คู่กาย ไว้เล่นหลากเกมใหม่ในยุคนี้กันแบบเต็ม ๆ ครบทุกอรรถรส